วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

กระบี่  
เมืองชายทะเลในฝัน งดงามด้วยหาดทรายขาว น้ำทะเลใส ปะการังสวย ถ้ำโตรกชะโงกผา และหมู่เกาะน้อยใหญ ่กว่า 100 เกาะ รวมกันเป็นมนต์เสน่ห์ที่สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่มา เยือน..."กระบี่" เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ริมฝั่ง ทะเลอันดามัน อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 814 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 4,708 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยภูเขา ที่ดอน ที่ราบ หมู่เกาะน้อยใหญ่ อุดมไปด้วยป่าชายเลน ตัวเมืองกระบี่มีแม่น้ำยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ไหลผ่านลงสู่ทะเลอันดามันที่ตำบล ปากน้ำ นอกจากนี้ ยังมีคลองปกาสัย คลองกระบี่ใหญ่ และคลองกระบี่น้อย มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกระบี่ คือ เทือกเขาพนมเบญจา จากหลักฐานทางโบราณคดี สันนิษฐานได้ว่า บริเวณเมืองกระบี่เคยเป็นแหล่งชุมชนโบราณที่เก่า แก่มากแห่งหนึ่งในประเทศไทย ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์และต่อเนื่องมาจนถึงสมัยประวัติศาสตร์ กล่าวกันว่าดินแดนนี้แต่ เดิมคือ เมืองบันไทยสมอ 1 ใน 12 เมืองนักษัตรที่ใช้ตราลิงเป็นตราประจำเมือง ขึ้นกับอาณาจักรนครศรีธรรมราช และยังมี ข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับชื่อเมืองกระบี่ว่า อาจมาจากความหมายที่แปลว่า "ดาบ" เนื่องจากมีตำนานเล่าสืบต่อกันมาเกี่ยวกับ การขุดพบมีดดาบโบราณก่อนที่จะสร้างเมือง





ชายหาดบนเกาะหลีเป๊ะ อุดมไปด้วย ท้องทะเลที่ใสสะอาด เกาะที่เงียบสงบ และน้ำที่ตื้นเขิน โดย เกาะหลีเป๊ะ มีหาดที่สำคัญๆ อยู่ 4 หาดคือ หาดพัทยา อยู่ทางตอนใต้ ซึ่งเป็นเกาะที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปมาก

      หาดซันไรท์ อยู่ทางทิศตะวันออก ใกล้ๆ กับหมู่บ้านชาวเล
      หาดคาร์มา อยู่ทางตอนเหนือ ซึ่งหันหน้าเข้าเกาะอาดัง
      หาดซันเซ็ท อยู่ทางทิศตะวันตก หันหน้าเข้ารับแสงอาทิตย์ ตามชื่อของหาด หาดพัทยา, เกาะหลีเป๊ะ

      เกาะหลีเป๊ะ อยู่ทางตอนใต้ของเกาะอาดัง และเป็นที่อยู่อาศัยของชาวน้ำประมาณ 500 คน ซึ่งกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เกาะหลีเป๊ะ อยู่บนเกาะลันตาในจังหวัดกระบี่ พวกเขาดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการประมง และการเพาะปลูกผัก ปลูกข้าวอยู่บน เกาะหลีเป๊ะ





 


  เกาะกูด         จ.ตราด
                                                                ไข่มุกแห่งทะเลตะวันออก
                          บนเนื้อที่11.894ตร.กม.เป็นที่ตั้ง อ.เกาะกูด ในอุทยานหมู่เกาะช้างและเป็นเกาะสุดท้ายทะเลตะวันออก ใหญ่อันดับหกของ ประเทศมีอ่าวและหาดทรายขาวน้ำใสที่ไม่ต่างกับทะเลอันดามัน รีสอร์ทและโรงแรมมีให้เลือกมากมายราคาท่านเลืกได้ตามที่ต้องการ แหล่งท่องเที่ยว      เช่น น้ำตกดำน้ำดูประการังตกปลาชมหิ่งห้อยอาหารทะเลสดๆจากทะเล และกีฬาชายหาดจัดเลี้ยงปาร์ตี้ริมหาดมีไว้บริการท่าน







บางสะพาน ....สัมผัส.....ทะเลใต้.....ตอนต้น.....
    ล่อง เรือชมความงามท้องทะเล ดำน้ำดูปะการัง ดูปลาสวยงามที่เกาะทะลุ เกาะสิงห์ , เที่ยวน้ำตก , สักการะหลาวงปู่ทวด , เข้าชมอุทยานสัตว์น้ำ , กรมหลวงชุมพร , ด่านชายแดนไทย - พม่า ฯลฯ บ้านพักติดหาดส่วนตัวบริการห้องพักปรับอากาศ 2-3 ท่านขึ้นไป ห้องสัมมนาไม่ต่ำกว่า 80 ท่าน อาหารสด ๆ จากทะเล

      



"ลึกล้ำเข้าไปกลางทะเลลึกแห่งอันดามัน ช่วงเวลาหนึ่งที่เรานั่งเรือชมเกาะรูปร่างสวยงามแปลกตา ใคร จะเชื่อว่า อีกชั่วข้ามเวลาหนึ่งทะเลที่เราผ่านมาชั่วครู่ จะลดระดับน้ำดุจทะเลแหวกออกจนกลายเป็นหาดทรายขาวสะอาด เชื่อมเกาะสองเกาะอย่างน่าอัศจรรย์"


 เกาะปอดะเป็น หนึ่งในหมู่เกาะปอดะ อันประกอบด้วยเกาะปอดะ เกาะไก่ เกาะทับ เกาะหม้อ เป็น 4 เกาะเด่น ที่สามารถรวมเป็นโปรแกรมเที่ยวภายในหนึ่งวันได้ นับเป็นรายการท่องเที่ยวยอดนิยมของทะเลกระบี่ เพราะเดินทางสะดวกและค่าใช้จ่ายไม่มาก หากเลือกพักที่อ่าวนางจะสามารถเหมาเรือหางยาวหรือเรือหัวโทงมาเที่ยวชมหาด ทรายสวยๆ ของเกาะเหล่านี้ได้


เที่ยวทะเลแหวกกันดีกว่า…

จากอ่าวนาง ถึงหมู่เกาะปอดะ ให้คุณเช่าเรือสักลำพาคุณไปเที่ยวยังอ่าวไร่เลย์ตะวันตกเป็น ที่แรก เพราะเป็นส่วนเดียวกับชายฝั่งอ่าวนาง แต่จะไม่สามารถเดินทางไปถึงได้โดยรถยนต์ จะต้องนั่งเรือไปเท่านั้น! อ่าวมีลักษณะเป็นที่ราบ ตรงกลางคล้ายๆกับแหล่มยื่นเข้าไปในทะเล ถูกกั้นด้วยภูเขาหินปูนทั้งสองด้าน จึงถูกแบ่งเป็น อ่าวไร่เลย์ตะวันตก และ อ่าวไร่เลย์ตะวันออก
 
 




หาดถ้ำพระนาง เป็นหาดทรายขาวสวยงามตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอ่าวไร่เลย์ โดยห่างกันแค่เพียงแนวหินปูนกั้นเท่านั้น ทางทิศใต้ของหาดมีศาลพระนาง และยังสามารถเดินไปเที่ยวอ่าวไร่เลย์ตะวันออกได้
ช่วงเวลาเที่ยงวัน เรือจะนำพาคุณไปชมความงามอันน่ามหัศจรรย์ของทะเลแหวกที่ เกาะไก่-เกาะทัพ-เกาะหม้อ ทั้งสามเกาะนี้เป็นบริวารของหมู่เกาะปอดะ วางตัวเรียงกันเป็นรูปสามเหลี่ยม มีสันฐาณติดกันเมื่อคลื่นพัดทราย มาพบกันที่จุดนี้จึงทำให้เกิดเป็นแนวสันทรายเชื่อมเกาะทั้งสามเกาะนี้ให้ถึง กัน สันทรายนี้จะจมหายไป เมื่อน้ำขึ้นสูง เมื่อน้ำลดแนวสันทรายก็จะค่อยๆ โผล่ขึ้นมาเหมือนกับว่าแบ่งทะเลให้แยกออกกันเป็นสามส่วนจึงเป็นที่มาของ ทะเลแหวก สถานที่ท่องเที่ยว 



"เมื่อนั่งเรือกลับมาถึงอ่าวนางช่วงเย็นๆแนะนำให้รอชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ หาดนพรัตน์ธาราวิวยามเย็นนั้นสวยงามจับใจเลยทีเดียว" 
   
 ทะเลแหวก






จะว่าไปแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามองเห็นอยู่ทุกวันนี้ ก็เกิดขึ้นจากความอัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่สรรค์สร้างขึ้นมาให้เห็นและเป็นอยู่ แม้ว่าจะเป็นตึกรามบ้านช่องในเมืองคอนกรีต ก็ต้องตั้งอยู่บนพื้นดินที่ธรรมชาติได้สร้างขึ้นเช่นกัน แบบนี้ก็ชี้ให้ชัดได้แล้วว่า ธรรมชาตินั้นมีความสามารถสูงส่งเพียงใด
       
       หรืออย่างผืนทรายใต้น้ำทะเล ที่บางครั้งก็โผล่ขึ้นมาให้ได้ชมกันยามน้ำลด บางแห่งก็ทอดตัวเป็นเส้นทางยาวจากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่ง เคียงคู่ไปกับผืนน้ำ ดังเช่น “ทะเลแหวก” ในหลายแห่งของเมืองไทย และความน่าพิศวงนี้ก็เป็นสิ่งดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตาแวะเวียนเข้าไปดูให้เห็นกับตาว่า “ทะเลแหวก” นั้นเป็นเช่นไร
 ทะเลแหวกเกาะไก่ จ.กระบี่
       ทะเลแหวกชื่อดัง หนึ่งในอันซีนไทยแลนด์เมื่อปี พ.ศ.2546 ความน่าสนใจและน่าอัศจรรย์ใจอยู่ที่เมื่อยามน้ำทะเลลดต่ำลง สันทรายที่ทอดยาวก็จะปรากฏขึ้น กลายเป็นสะพานทรายทอดยาวเชื่อมเกาะ 3 เกาะเข้าด้วยกัน นั่นก็คือ เกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะทับ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับเกาะปอดะ
      
       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการไปเดินทอดน่องบนสันทรายขาวเนียนกลางทะเลก็ คือ ช่วงเวลาที่น้ำลงต่ำสุดในแต่ละวัน โดยเฉพาะวันก่อนและหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ประมาณ 5 วัน และช่วงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการไปท่องเที่ยวก็คือ ระหว่างเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนพฤษภาคม








 ทะลแหวกเกาะนางยวน จ.สุราษฎร์ธานี
       เกาะนางยวนนั้นตั้งอยู่ใกล้ๆ กับเกาะเต่า บริเวณทะเลฝั่งอ่าวไทย และก็เป็นหนึ่งในความน่าอัศจรรย์ของเมืองไทยตรงที่มีทะเลแหวกเชื่อมต่อ ระหว่าง 3 เกาะ เป็นสันทรายสีขาวสะอาดเชื่อมต่อเกาะใหญ่และเกาะเล็กๆ อีก 2 เกาะไว้ด้วยกันตลอดเวลา
      
       ความงามของเกาะเล็กๆ อย่างเกาะนางยวนนั้น ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยติดอันดับโลก และยังมีโลกใต้ทะเลที่สวยงามให้ลงไปสัมผัสและแหวกว่าย นักท่องเที่ยวที่มาถึงเกาะเต่าแล้ว ก็มักจะไม่พลาดที่จะมายลความงามของทะเลแหวก ณ เกาะนางยวนแห่งนี้
 



ทะเลแหวกเกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี
       ถ้าพูดถึงเกาะพงัน สิ่งที่มีชื่อเสียงมากที่สุดก็คือ ฟูลมูนปาร์ตี้ ฮาร์ฟมูนปาร์ตี้ และปาร์ตี้อื่นๆ ท่ามกลางแสงจันทร์ ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ความนิยมอย่างมาก แต่นอกเหนือจากความอึกทึกคึกโครมของปาร์ตี้ต่างๆ แล้ว ความสงบงามของธรรมชาติของทะเลไทยก็ยังคงมีอยู่เช่นกัน
      
       ทะเลแหวกของเกาะพงันนั้น จะอยู่ที่อ่าวแม่หาด ซึ่งสันทรายทะเลแหวกจะเชื่อมต่อกับเกาะม้า สามารถเดินข้ามไปเดินเล่นบนเกาะม้า ดูโขดหิน หาที่นอนอาบแดด หรือนั่งตกปลาเงียบๆ ก็ยังได้ ถ้ามาในช่วงที่น้ำลง ก็จะเห็นเป็นสันทรายเชื่อมเกาะธรรมดา แต่หากมาในช่วงเหมาะ น้ำขึ้นสูงพอปริ่มๆ สันทราย แล้วลงไปเดินลุยเล่นๆ ก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่น่าลองเมื่อมาเที่ยวเกาะพงัน
  

 ทะเลแหวกเกาะพิทักษ์ จ.ชุมพร
       เกาะพิทักษ์ตั้งอยู่ไม่ห่างจากชายฝั่งมากนัก ยามที่น้ำลดจึงเกิดปรากฏการณ์ทะเลแหวกให้ได้เห็น สันทรายที่เห็นอยู่บริเวณหน้าเกาะจะเชื่อมกับชายฝั่ง แต่หากน้ำทะเลลดลงมากๆ ทะเลแหวกก็จะทอดยาวไปถึงฝั่งหลังสวน บริเวณอ่าวท้องครก จนสามารถเดินข้ามฝั่งได้อย่างสบาย
      
       ทะเลแหวกที่นี่ไม่ได้สวยงามขาวละเอียดเหมือนที่อื่น แต่ก็มีเสน่ห์ตรงวิถีชีวิตชาวบ้านที่พบเห็นได้ทั่วไป อย่างเช่นช่วงที่น้ำลด ก็จะมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งมาหาหอยบริเวณทะเลแหวก หรือหากต้องการข้ามมายังฝั่งเกาะพิทักษ์ ยามปกติก็จะต้องอาศัยเรือ แต่หากน้ำลดก็สามารถเดินข้ามมาได้เลย และยังมีเสาไฟฟ้าที่ทอดยาวคู่ขนานไปกับแนวสันทราย นำไฟฟ้าจากฝั่งเชื่อมไปยังผู้คนบนเกาะด้วย
      
       อีกสิ่งที่ทะเลแหวกเกาะพิทักษ์ไม่เหมือนใคร ก็คือกิจกรรมการวิ่งทะเลแหวกจากฝั่งข้ามไปยังเกาะพิทักษ์ ระยะทาง 14 กิโลเมตร เริ่มจากเรือจำลองจักรีนฤเบศร ปากน้ำหลังสวน ใช้เส้นทางเลียบชายทะเลและเข้าสู่เส้นชัยที่เกาะพิทักษ์ ซึ่งกิจกรรมนี้จะจัดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี


ทะเลแหวกอ่าวลึก จ.กระบี่
       ทะเลแหวกอ่าวลึก อยู่ในพื้นที่ของ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ แม้จะไม่สวยงามเหมือนหาดทรายขาวเนียนละเอียดในที่อื่นๆ แต่ก็ทรงเสน่ห์ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของกุ้งหอยปูปลา และเหตุที่เรียกอ่าวลึก ก็ไม่ใช่เพราะว่าเป็นทะเลน้ำลึก แต่เพราะที่ อ.อ่าวลึก มีพื้นที่อ่าวยื่นลึกกินแผ่นดินเข้ามา
       
       ส่วนทะเลแหวกที่อ่าวลึก หรือที่เรียกกันว่า ทะเลแหวกสวนหินเซ็น จะเกิดเมื่อขึ้นน้ำลดระดับลงจนสุด จะเกิดแนวสันทรายและแนวหินโสโครกเล็กๆ ผุดขึ้นมาเห็นเป็นทรงรูปขวานคล้ายแผนที่ประเทศไทย โดยแนวสันทรายจะอยู่ที่ด้ามขวาน ส่วนใบขวานจะเป็นแนวโขดหินและสันทราย โดยรูปทรงจะเปลี่ยนไปตามจังหวะที่น้ำขึ้น-ลง และกระแสน้ำที่พัดผ่านสันทราย


ทะเลแหวกหาดมังกร จ.สตูล
  “หาดมังกร” เป็นชื่อที่ชาวชุมชนตันหยงโป อ.เมือง จ.สตูล เรียกขานเกาะแห่งหนึ่งที่เป็นสิ่งมหัศจรรย์กลางทะเลอันดามัน เพราะเมื่อยามน้ำทะเลลดลง ก็จะปรากฏสันทรายโผล่ขึ้นมาเป็นเส้นทางคดเคี้ยวยาวกว่า 3 กิโลเมตร และยังสามารถเชื่อมไปยังอีกเกาะหนึ่งได้ และบนสันทรายนั้นก็เต็มไปด้วยซากเปลือกหอยหลายล้านตัวทับถมกันอยู่ และที่มาของชื่อหาดมังกรก็คือ สันทรายที่เปรียบเสมือนมังกรถลาลงเล่นน้ำ ให้เราได้เดินเล่นอยู่บนสันหลังมังกรที่พลิ้วไหวงดงาม
      
       ปรากฏการณ์ทะเลแหวกนี้ มิใช่ว่าจะหาดูได้ง่ายๆ ต้องตั้งใจไปให้ถึงที่ ในช่วงวันและเวลาที่เหมาะสม ความน่าอัศจรรย์แบบนี้จึงจะปรากฏขึ้นให้เป็นที่ประทับใจไปอีกแสนนาน